วิธีแก้ 404 page not found ใน WordPress ทำยังไงได้บ้าง?

การจะทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด แน่นอนเราต้องเก็บทุกรายละเอียด และทุกจุดที่พอทำได้ error 404 page not found (หน้าที่ลิงค์เสีย) คือ 1 ปัญหาที่เราทุกคนต้องเจอเป็นอย่างแน่นอน แม้ว่าปัญหานี้จะไม่ได้ส่งผลต่อการทำ SEO มากนัก

หน้า Error 404 เราจะพบเจอเป็นจำนวนมาก หากเรามีการใช้โดเมนเก่า เอามาทำเว็บใหม่ เพราะโครงสร้าง URL ของเว็บใหม่ ย่อมไม่แสดงเหมือนกับเว็บเก่าอย่างแน่นอน ที่ google search console ย่อมต้องแสดงข้อผิดพลาดในการเก็บข้อมูล (Error 404 page not found) เพราะเขาไม่พบเจอข้อมูลของ URL เว็บเก่าของเรา

สารบัญเนื้อหา

คลิกดูเนื้อหาที่ละตอนได้

1. 404 page not found คืออะไร
2. สาเหตุของการเกิด 404 page not found
3. ความสำคัญของการแก้ Error 404
4. ประเภทของการทำ Redirect
5. วิธีการแก้ 404 page not found
6. วิธีการแก้ปัญหาด้วย Yoast premium
7. บทสรุป

เพื่อให้การทำ SEO มีประสิทธิภาพสูงสุด
ผมแนะนำให้คุณอ่านบทความนี้ก่อนครับ Roadmap สอน SEO step by step

อยากทำเว็บขายของออนไลน์ด้วยตนเอง
เราต้องรู้อะไรบ้าง? คลิกอ่าน ?

การสร้างเว็บไซต์ อัพเดท 2020

อยากทำเว็บขายของออนไลน์ด้วยตนเอง
เราต้องรู้อะไรบ้าง?

คู่มือสร้างเว็บขายของ ฉบับสมบูรณ์

1. 404 page not found คืออะไร

404 page not found คือ หน้าที่ Googlebot มาเก็บข้อมูลแล้วไม่พบ URL บนเว็บของเรา หรือหน้าที่มีข้อความแสดงว่า File not found คือ ไม่มีไฟล์ของหน้านั้นที่ Server นั้นเอง เราสามารถตรวจเช็ค หน้าที่ไม่พบ URL ได้ที่ Google search console ในส่วนของ Crawl Error (การรวบรวมข้อมูลผิดพลาด)

2. สาเหตุของการเกิด 404 page not found

สาเหตุของการเกิดหน้า 404 page not found บนเว็บ WordPress สามารถเกิดได้จากหลายกรณี เช่น

1) เกิดจากโฮสติ้งมีปัญหา

หากคุณจะเลือกใช้ WordPress สร้างเว็บ คุณต้องรู้ก่อนว่า ถ้าจะใช้ WordPress ในการสร้างเว็บ ต้องเลือกใช้โฮสติ้งสำหรับ WordPress ยังไง เพราะโฮสติ้งนั้นมีมากมายหลายบริษัทมาก บางโฮสก็ไม่รองรับ WordPress

อาการจะเป็นอย่างไร?

ถ้า 404 เกิดจากโฮส มักจะมีปัญหา ดังนี้ คือ เข้าเว็บหน้าแรกได้ แต่เข้าไปดูเนื้อหา หน้าอื่นๆ ที่ url ตั้งค่าเป็นภาษาไทยไม่ได้ แบบนี้ฟันธงได้เลย ว่าเป็นที่โฮสครับ

แนวทางการแก้ไข

หากเราเช็คแล้วปัญหา Error 404 นี่มาจากโฮส ทางแก้มีวิธีการเดียวครับ คือ คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนโฮส แล้วเลือกใช้โฮสติ้ง ที่รองรับการสร้างเว็บด้วย WordPress โดยเฉพาะครับ

อ่านเพิ่มเติม: Hosting WordPress ที่ไหนดี 

2 ) เกิดจาก Database ยังไม่ได้อัพเดท

อาการจะเป็นอย่างไร?

หากคุณมีการย้ายข้อมูลเว็บ จากโดเมนนึง ย้ายไปใส่อีกชื่อโดเมน พอย้ายเว็บเสร็จ ตอนเปิดเข้าเว็บ จะเปิดเข้าเว็บได้ แค่หน้าแรก แต่พอคลิกหน้าอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นหน้าที่ใช้ url ไทย หรือ url ภาษาอังกฤษ เปิดไม่ได้ทั้งหมด

ถ้ามีอาการแบบนี้แสดงว่า มีปัญหาเกี่ยวกับ Database ยังไม่ได้ถูกอัพเดทตาม

แนวทางการแก้ไข

หากเราพึ่งมีการย้ายเว็บ ทุกครั้งที่คุณย้ายเว็บเสร็จเรียบร้อยแล้ว เราต้องมีการอัพเดท Database ก่อนทุกครั้ง

วิธีการอัพเดท Database บนเว็บ WordPress มีวิธีการดังนี้ครับ

ให้เข้าไปที่หลังบ้าน WordPress ดูที่เมนู Setting > คลิกเลือก Permalink > จากนั้นคลิกเลือก หัวข้อ Post name > จากนั้นให้คลิก Save change 2 ครั้ง

3) ทำเว็บใหม่ บนโดเมนเก่า

ส่งผลให้ URL ที่เคยถูก Index จาก Google ของเว็บเก่าหายไป

4) มีการเปลี่ยนแปลงหรือแก้ไข URL

ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนจาก URL ไทย มาเป็น URL ภาษาอังกฤษ หรือเปลี่ยน URL อันเดิม เป็นคำใหม่ จะก็ให้เกิดหน้า 404 not found ได้ทั้งหมดครับ

5) เป็น 404 จากURL ที่มาจาก Demo ของธีม

หากเราสร้างเว็บด้วย WordPress โดยมากเราจะเริ่มต้นโดยการดึงเดโมของธีม มาใช้งานเบื้องต้น แต่กว่าเราจะทำเว็บเสร็จเรียบร้อยอาจใช้เวลาเป็นเดือนๆ จึงทำให้ URL หน้าเว็บที่มากจาก Demo ถูก index จาก Google แล้ว เมื่อมีการลบหน้านั้นทิ้งก็จะเกิด 404 page not found ขึ้นมาทันที

คุณจะรับรู้การแจ้งเตือนหน้า 404 page not found ของสาเหตุหัวข้อที่ 3-5 ได้จาก google search console เท่านั้น

หากเว็บของคุณได้รับการแจ้งเตือน 404 page not found จาก Google Search console ให้ดูวิธีการแก้ไขปัญหา ในหัวข้อถัดไปต่อได้เลยครับ

3. ความสำคัญของการแก้ Error 404

สำหรับปัญหา 404 page not found คำอธิบายโดยตรงจาก Google Webmaster Central Blog เขียนไว้ดังนี้ครับ

“ข้อผิดพลาด 404 ส่วนใหญ่ไม่ส่งผลกระทบต่อการจัดอันดับของไซต์ใน Google คุณจึงไม่ต้องสนใจข้อผิดพลาดนี้ได้โดยไม่มีผลเสียใดๆ”

อ่านคำอธิบายจาก Google ฉบับเต็ม ได้ที่นี่ การรายงานข้อผิดพลาดที่พบเมื่อเข้ารวบรวมข้อมูล

นั้นหมายความว่าปัญหา 404 page not found เป็นปัญหาที่เราจะพบเจอได้กับทุกเว็บไซต์ แต่ไม่ใช่ปัญหาที่สงผลต่อการทำ SEO โดยตรง แต่จะมีผลต่อประสบการณ์ของคนใช้งานที่เข้ามาดูเว็บเรามากกว่า หากมีใครเข้าเว็บแล้วเจอหน้าที่ Error บ่อย เขาอาจออกจากเว็บเราแล้วไปเข้าเว็บอื่นๆ แทนได้นั้นเอง

แต่ก็ป็นที่รู้กันหากเราต้องการทำเว็บให้ติดหน้าแรก Google ได้นั้นไม่ใช้เรื่องง่าย เพราะ Google มีเกณฑ์ที่ใช้จัดอันดับอยู่หลายปัจจัย

Brian Dean กูรูด้าน SEO ได้รวบรวมปัจจัยการทำ SEO เป็นหัวข้อๆ ไว้ถึง 200 กว่าหัวข้อเลยทีเดียว ลองเข้าไปอ่านกันดูได้ที่นี่นะ Google’s 200 Ranking Factors: The Complete List (2018) แม้ปัญหา 404 page not found จะไม่ใช่เรื่องร้ายแรง แต่เราก็ไม่ควรละเลยนั้นเอง

4. ประเภทของการ Redirect

สำหรับแนวทางการแก้ปัญหา Error 404 หลักๆ เลยคือการทำ Redirect แต่การจะทำ Redirect ได้อย่างถูกต้อง เราต้องรู้ประเภทต่างๆ ของการทำ Redirect ว่ามีอะไรบ้าง

• 301 – Moved permanently :
  การย้าย URL ไปอยู่ที่ตำแหน่งใหม่อย่างถาวร
• 302 – Found :
  มีปลายทางของ URL แต่เป็น URL ชั่วคราว
• 307 – Temporary redirect :
  เป็น URL ชั่วคราว  มีลักษณะคล้ายกับ 302 redirect
• 410 – Content deleted :
  URL หน้านี้ไม่ได้ใช้งานแล้ว ถูกลบออกไปจากเว็บไซต์
• 451 – Content unavailable for legal reasons :
  URL นี้ไม่แสดงภายใต้เหตุผลทางกฎหมาย

ดูความหมายประเภทของ Redirect ฉบับเต็มได้ที่ HTTP status codes and what they mean for SEO

มีแค่เว็บที่มีคุณภาพดีเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสติดหน้าแรก Google ได้ ไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้เอง ผมขอแนะนำให้มาเรียนครับ ดูรายละเอียด และค่าเรียนได้ที่นี่ 

สอนทำเว็บไซต์ ตัวต่อตัว สอน WordPRess ตัวต่อตัว

5. วิธีการแก้ 404 page not found

สำหรับวิธีการแก้ปัญหา 404 page not found ทีเป็นที่นิยมกัน เราจะทำ Redirect ประเภท 301 กับ 410 เป็นหลักครับ

สำหรับขั้นตอนแรกสิ่งที่ต้องทำคือการเข้าไปเช็คดูหน้าที่เป็น 404 Error ที่ Google search console ของเราก่อน ให้เข้าไปที่ส่วนของ Crawl Error (ข้อผิดพลาดในการรวบรวมข้อมูล)

การแสดงหน้าที่ไม่พบ (404 page not found) ของแต่ละคนอาจไม่เท่ากัน ใครมีจำนวนหน้าที่ไม่พบ URL จำนวนมากไม่ต้องตกใจ (จะพบมากสำหรับกรณีที่เราทำเว็บใหม่โดยใช้โดเมนเดิม) เพราะบางครั้งมันเป็นข้อมูลที่ถูกเก็บไว้นานแล้ว

ซึ่งการแสดงหน้าที่เป็น 404 จะมี 2 หมวด คือ หน้า 404 ของ Desktop กับหน้า 404 บน Smartphone และก่อนที่เราจำทำการ Redirect ให้เราทำการเคลียร์ข้อมูลเก่าออกไปก่อน ทำตามนี้ครับ

• ให้เราติ๊กตรงช่องลำดับความสำคัญ (Priority) คือการเลือกหน้า 404 ทั้งหมด
• จากนั้นให้เราคลิกตรงคำว่า ทำเครื่องหมายว่าแก้ไขแล้ว (Mark as fixed) ที่เป็นสีแดงๆ
• ทำแบบนี้ทั้งหมวด Desktop และหมวด Smartphone

พอเราทำวิธีการข้างต้นหน้าที่เป็น 404 หายไปจาก Crawl Error ชั่วคราว

ปล่อยเว็บทิ้งไว้ 2-3 วัน จากนั้นให้เราเข้ามาเช็คที่ google search console ใหม่อีกรอบ คราวนี้เราจะเห็นหน้าที่เป็น 404 จริงๆ ที่เราจะต้องมาทำ Redirect เพื่อแก้ไขปัญหาอย่างถาวรต่อไปนั้นเอง

แก้ปัญหาหน้า 404  ด้วยการทำ 301 redirect

เราจำทำ 301 redirect กับหน้าที่มีเนื้อหาอยู่แล้ว แต่เราอาจจะมีการแก้ไข URL ใหม่ เช่นเปลี่ยนจาก URL ไทยเป็น URL ภาษาอังกฤษ ซึ่งหากเราทำเว็บด้วย WordPress เราจะใช้ปลั๊กอิน Redirection ในการจัดการครับ

ห้เราติดตั้งปลั๊กอิน แล้วกด activate เปิดใช้งานให้เรียบร้อย จากนั้นไปที่ Tools > Redirection

ให้เรากลับไปที่ google search console เข้าไปเลือก URL ที่เป็น 404 page not found มาใส่ที่ช่อง Source URL และให้ใส่หน้า URL ใหม่ที่เราต้องการทำ redirect ไปหาที่ช่อง Target URL จากนั้นคลิก Add Redirect ให้เรียบร้อย

นอกจากนี้เราต้องกลับไปที่ google search console แล้วเข้าไปกดตรง ทำเครื่องหมายว่าแก้ไขแล้ว (Mark as fixed) ให้เรียบร้อยด้วย ซึ่งเราต้องนั่งไล่ทำแบบนี้ในทุก URL ที่เราต้องการเปลี่ยนหน้า URL (301 Redirect) นั้นเอง

แก้ปัญหาหน้า 404  ด้วยการทำ 410 Content deleted

สำหรับหน้า 404 ที่เราไม่ต้องการ URL นี้แล้วคือ เนื้อหาของหน้านี้เราได้ลบออกไปจากเว็บของเรา ไม่ต้องการใช้มันแล้ว กรณีนี้เราต้องทำ redirect ประเภท 410 Content deleted แทน 301 Redirect ครับ

ขั้นตอนการทำมีดังนี้

เราจะใช้ปลั๊กอิน Redirects your 404 error to a 410 page หลังจากติดตั้งและ activate ปลั๊กอินเรียบร้อยแล้ว ให้เราไปที่เมนู Plugins > 410 for WordPress

ให้เรากลับไปที่ google search console เข้าไปเลือก URL ที่เป็น 404 page not found ที่เราต้องการลบ URL นี้ทิ้งเพราะเป็นเนื้อหาที่เราไม่ใช้แล้ว มาใส่ที่ช่อง Manually ตามรูปด้านบนได้เลยครับ จากนั้นคลิก Add entries to 410 list

จากนั้นเราต้องกลับไปที่ google search console แล้วเข้าไปกดตรง ทำเครื่องหมายว่าแก้ไขแล้ว (Mark as fixed) ให้เรียบร้อยด้วย ซึ่งเราต้องนั่งไล่ทำแบบนี้ในทุก URL ที่เราต้องการทำ 410 Content deleted

6. วิธีการแก้ปัญหาด้วย Yoast premium

หากใครที่ใช้ปลั๊กอิน Yoast แต่ต้องเป็นตัวเสียเงินนะ ก็จะสะดวกหน่อย เพราะเขาจะมีฟังชั่น 301 redirect และ 410 Content deleted มาให้เราพร้อมใช้งานเลยนั้นเอง สำหรับขั้นตอนการใช้งานมีดังนี้

อันดับแรกเราต้องเชื่อมต่อ Google search console เข้ากับ Yoast โดยให้ไปที่ เมนูหลังบ้านส่วนของ Yoast > คลิกที่ Search Console

จากนั้นให้คลิก Get Google Authorization Code เราก็จะได้ Code จาก Google จากนั้นให้เราเอาโค้ดนั้นมาว่างที่ช่องได้ล่าง แล้วก็กด Authenticate ได้เลยครับ

ที่ Yoast Search Console ก็จะดึงค่า 404 page not found จาก Google มาแสดงที่หลังบ้านเว็บของเราเลย

เราก็จะสามารถเข้าไปทำ 301 Redirect หรือ 410 Content deleted ตรงๆ ผ่านเว็บเราได้เลย โดยที่เราไม่ต้องเข้าไปที่ Google search console เพื่อคลิก Mark as fixed ช่วยให้เราประหยัดเวลาได้มากทีเดียว

สรุป

404 page not found หรือหน้าที่ลิงค์เสีย เป็นสิ่งที่ทุกเว็บต้องเจออย่างแน่นอน แต่หากเว็บเรามีหน้า 404 เป็นจำนวน ก็ไม่ต้องซีเรียจหรือตกใจมากเกินไป เพราะข้อผิดพลาดนี้ Google ก็ไม่ได้ให้ความสำคัญอะไรมากนักในการทำ SEO เพราะแก่นสารของการทำ SEO คือ การสร้างเนื้อหาที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ที่เข้ามาเว็บของเราเป็นหลักนั้นเอง

ประชาสัมพันธ์

สำหรับท่านใดที่อ่านบทความนี้แล้ว สนใจการทำ SEO บน WordPress แบบจริงจัง ในวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564 นี้ ผมได้เปิดคอร์สสอน SEO WordPress แบบกลุ่มเล็กๆ 1 รอบ สอนสดรอบละ 10 คน เพื่อให้ผู้เรียนได้ประโยชน์สูงสุด เรียนรู้และทำตามไปพร้อมๆ กันได้ 

รายละเอียดคอร์สเรียน

SEO WordPress

• ค่าเรียน 6,500 บาท
• เรียนวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564
• ระยะเวลาเรียน 6 ชั่วโมง
• เราเปิดสอน 1 รอบ
  รอบเช้า 10.00 – 16.00 น. (ว่าง)
• เรียนกลุ่มเล็กรอบละ 10 คนเท่านั้น
• สถานที่เรียน Seatz Station
• ปากซอยงามวงศ์วาน 44 ก่อนถึง รพ.วิภาวดี ฝั่งตรงข้าม ม.เกษตรประตูงามวงศ์วาน 3
• จองที่นั่งเรียนผ่าน Lind ID : padveewebschool ได้เลยครับ

  ทุกคอร์สเรียนรอบสอนสด ได้คอร์สเรียนออนไลน์แถมฟรีครับ  

  ทุกคอร์สเรียนรอบสอนสด  
 ได้คอร์สเรียนออนไลน์แถมฟรีครับ  

ดูรายละเอียดเพิ่มเติม ดูตารางเรียนรอบถัดไป

ตัวอย่างผลงาน
SEO Ranking ของเรา

**ประกาศ**

สำหรับการเรียนแบบส่วนตัว 1 ต่อ 1 หรือกลุ่มส่วนตัว แบบสอนนอกสถานที่ ผมไม่รับสอนเว็บพนัน เว็บบอล เว็บหวย เว็บสายเทาทุกชนิดครับ

จะเว็บสายขาว หรือเว็บสายเทา การทำ SEO ใช้หลักการเดียวกันหมดครับ เพราะการทำ SEO ในยุคปัจจุบัน ไม่มีใครสามารถโกง Google ได้นั้นเอง

หากเว็บคุณเป็นสายเทา แต่สนใจเรียน SEO ด้วยวิธีการที่ถูกต้องตามหลัก Google ก็มาเรียนได้ครับ แต่ให้ลงเรียนรอบสอนกลุ่มปกติ ที่สอนรอบละ 10 คนแทนนะ

แน่นอนวันเรียน คือ เรียนจาก case study จากเว็บหลายๆ แบบ แต่จะไม่มีการยกเว็บพนันมาเป็น case study  แต่คุณก็สามารถนำความรู้จากคลาสเรียนนี้ไปปรับใช้กับเว็บตัวเองได้ครับ ไม่มีปัญหา เพราะหลักการทำ SEO นั้นเป็นหลักการสากล นำไปปรับใช้ได้กับเว็บทุกชนิด จะเว็บสายขาย หรือสายเทา หลักการที่ผมสอนนี้ใช้ได้ทั้งหมด

แจ้งไว้ให้ทราบทั่วกัน และขออภัยในความไม่สะดวกครับผม...

• แชร์
• ส่งไลน์