SEO
E-A-T factor คืออะไร ส่งผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์บน Google อย่างไร?
E-A-T Factor คือ อัลกอริทึม ของ Google Search ในการค้นหาเว็บไซต์ ที่มีคุณภาพ ทุกเว็บไซต์ที่ต้องการติดหน้าแรก Google ต้องสร้างเนื้อหาให้มีคุณภาพ (Quality Content) ในสายตา Google โดยยึดหลัก E-A-T เป็นสำคัญ
แก่นของการทำ SEO คือทำเว็บให้ดีกว่าคู่แข่งทุกมิติ สร้างความเป็นผู้เชี่ยวชาญ (Expert) ในอุตสาหกรรมที่เราอยู่ E-A-T Factor เป็นหลักเกณฑ์ที่ Google ใช้สำหรับแยกแยะเว็บทั่วไป กับเว็บที่มีความเป็น Expert
สารบัญ
- E-A-T Factor คือ
- ทำไม Google สร้างเกณฑ์ E-A-T ขึ้นมา
- องค์ประกอบของ E-A-T
- แนวทางการทำเว็บให้ผ่านเกณฑ์ E-A-T
- ตัวอย่างเว็บที่ Expert เรื่องเดียว
- เว็บที่มีความน่าเชื่อถือส่งผลดีอย่างไรบ้าง
- สรุป
เรียน SEO ออนไลน์ฟรี 4 บทเรียน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดของการทำ SEO
คลิกเข้าเรียนที่นี่ทำไม Google สร้างเกณฑ์ E-A-T ขึ้นมา
เหตุผลที่ Google ต้องสร้าง อัลกอริทึม E-A-T ขึ้นมา ก็เพราะว่า เมื่อเวลาผ่านไป จะมีข้อมูลหรือเว็บไซต์เป็นจำนวนมากบนโลกของ internet บางเว็บก็เป็นข้อมูลจริง บางเว็บมีข้อมูลไม่จริง หรือไม่ถูกต้อง เป็นข่าวสารปลอม เป็นความรู้ที่ไม่อัพเดท หรือเป็นข้อมูลที่ซ้ำๆ กันซึ่งมันมีเยอะมาก
โดยเฉพาะความรู้ที่เกี่ยวข้องกับด้านสุขภาพ หรือการรักษาโรคภัยต่างๆ เช่น สมมุติเรามีญาติพี่น้อง ป่วยเป็นโรคมะเร็ง เราอยากได้ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาโรคนี้ แล้วเราค้นหาบน Google หากเว็บที่ติดอันดับหน้าแรก เขียนข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง แล้วเราหลงเชื่อหรือทำตาม อาจส่งผลต่อชีวิตผู้ป่วยได้
ด้วยเหตุนี้ Google จึงต้องพัฒนาอัลกอริทึม E-A-T มาจัดการนั้นเอง
องค์ประกอบของ E-A-T
เว็บไซต์จะมีความน่าเชื่อถือได้ ต้องมีองค์ประกอบ 3 ส่วนหลัก
- Expertise (ความเชียวชาญ):
คอนเทนต์เขียนโดยผู้เชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ หรือคุณสามารถแสดงให้เห็นได้ว่าคุณมีความรู้ในด้านนั้นจริงๆ - Authoritativeness (อำนาจ):
คุณมีความเป็นเจ้าของคอนเทนต์นั้น หรือเป็นศูนย์กลางของความรู้นั้นๆ - Trustworthiness (ความน่าเชื่อถือ):
มีความน่าเชื่อถือ ความสดใหม่ และความเกี่ยวข้อง
แนวทางการทำเว็บให้ผ่านเกณฑ์ E-A-T
แนวทางทำเว็บให้ผ่านเกณฑ์ Expertise (ความเชียวชาญ)
- เขียนบทความให้ละเอียดมีความยาวอย่างน้อย 1000 คำขึ้นไป (MS-Word)
- ปรับ On page SEO ทุกหน้า
ดูวิธีการเขียนบทความให้ถูกหลัก On page SEO คลิกอ่านที่นี่ - เขียนบทความให้อ่านรู้เรื่องและน่าสนใจ
ความแตกต่างของบทความขยะ กับบทความที่เขียนจากผู้เชี่ยวชาญ คือ การเขียนแล้วอ่านรู้เรื่องนั้นเอง เพราะถ้าเราเขียนบทความน่าอ่าน อ่านแล้วเข้าใจง่ายๆ User ก็จะอยู่บนเว็บเรานานขึ้น - พฤติกรรมของ User ที่ปรากฏบนเว็บของเรา เป็นตัวบ่งชี้ว่าบทความของคุณมีคุณภาพ หรือไม่มีคุณภาพ
แนวทางทำเว็บให้ผ่านเกณณ์ Authoritativeness (อำนาจ)
- ห้ามคัดลอกเนื้อหาจากเว็บคนอื่นมาใส่เว็บเรา
- เนื้อหาควรเขียนเอง แบบสดใหม่คือดีที่สุด
- ถ้ามีการคัดลอกเนื้อหา ต้องมีการดัดแปลงเนื้อหาให้ดีขึ้นด้วยเสมอ
- ทำเว็บให้เป็นศูนย์กลางของเรื่องๆ นั้น
ห้ามเขียนบทความจับฉ่าย แต่ควรโฟกัสไปที่เรื่องเดียว เช่น ถ้าคุณขายชุดออกกำลังกาย บทความบนเว็บของคุณก็ควรเป็นเรื่องเกี่ยวกับการออกกำลังกายล้วนๆ ไม่ควรมีเรื่องหรือเนื้อหาจากวงการอื่นเข้ามาปะปน - หากเราเป็นเว็บเล็กๆ จะสู้กับเว็บใหญ่ๆ เช่น Lazada shopee sanook kapook ได้ เราต้องเป็น Expert แค่เรื่องเดียวเท่านั้น
- มีหน้าเว็บหรือบทความอย่างน้อย 20 หน้าขึ้นไป
- วางโครงสร้างคอนเทนต์ให้มีลักษณะเป็น Content Hub
Content Hub คือ การเชื่อมโยงเนื้อหาที่เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกัน ซึ่งจะมีองค์ประกอบอยู่ด้วย 3 ส่วน ดังนี้ 1) Hub page/pillar content 2) Subpages/cluster content 3) Hyperlinks
ดูแนวทางการการทำ Content Hub ได้ที่บทความนี้ คลิกอ่านที่นี่
แนวทางการทำเว็บให้ผ่านเกณฑ์ Trustworthiness (ความน่าเชื่อถือ)
- เนื้อหาของบทความต้องเกี่ยวข้องกับคำที่เป็น keyword หลักของธุรกิจคุณเสมอ
- มีบทความใหม่ๆ หรือมีการอัพเดทเนื้อหาบนเว็บให้ดีขึ้นอยุ่เป็นประจำ
- การเชื่อมโยงลิงค์ต่างๆ บนเว็บของเรา Google จะเข้าใจเนื้อหาบนเว็บของเราผ่านลิงค์ที่เชื่อมโยงกันไปมา ทั้งลิงค์ภายในและลิงค์ภายนอก
- อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำ Internal/External Link อย่างมืออาชีพ คลิกอ่านที่นี่
ตัวอย่างเว็บที่ Expert เรื่องเดียว
ลองดูตัวอย่างเว็บเหล่านี้ ที่แสดงความเป็นผู้เชี่ยวชาญ (Expert) ในอุตสาหกรรมที่เขาอยู่ ลองดูเป็นไอเดีย แล้วเอามาปรับใช้ให้เหมาะกับธุรกิจของตัวเองดูนะ
- fitmesport.com เชี่ยวชาญในเรื่อง ชุดออกกำลังกายผู้หญิง
- pnsteelproduct.com เชี่ยวชาญในเรื่อง การผลิตชั้นวางสินค้า
- healthplatz.co เชี่ยวชาญในเรื่อง อาหารคลีน
- ikasalong.com เชี่ยวชาญในเรื่อง น้ำพริกน้ำเงี้ยว
เว็บที่มีความน่าเชื่อถือส่งผลดีอย่างไรบ้าง
ถ้าเว็บของคุณมีความน่าเชื่อถือสูง จะส่งผลดีในด้านการทำ SEO ดังนี้
- จะช่วยให้ Google มา index เว็บของเราเร็วขึ้น
การเข้ามาเก็บข้อมูลของ Google แต่ละเว็บจะมีความช้าเร็วไม่เท่ากัน เว็บใครที่มีความน่าเชื่อถือสูง Google จะเข้ามาเก็บข้อมูลก่อน - หากเว็บเราติดอันดับหน้าแรกได้แล้ว จะติดอันดับแบบมั่นคง อันดับร่วงยาก
- ช่วยให้คะแนน Alexa Ranking บนเว็บของเราดีขึ้นด้วย
Alexa Ranking คืออะไร อ่านเพิ่มเติมที่บทความนี้ครับ: วิเคราะห์ SEO เว็บไซต์คู่แข่ง ใช้เครื่องมืออะไรดี
สรุป
Google Search Engine หน้าที่หลักของเขาคือ การแสดงผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และตรงกับสิ่งที่ผุ้คนค้นหาเสมอ ดังนั้นการทำ SEO ที่ได้ผลที่สุด คือ ทำเอง Google ปรับหลักเกณฑ์หลายอย่าง ที่เอื้อต่อการทำเองมากกว่าการจ้างทำ โดยเราต้องยึดเกณฑ์ E-A-T Factor เป็นหัวใจในการทำคอนเทนต์เสมอ เพื่อสร้างความเป็นผู้เชี่ยวชาญ (Expert) ในอุตสาหกรรมที่เราอยู่
ดูบทความที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้เพิ่มเติม
