Google Sitelinks คือ 1 ในตัวบ่งชี้ว่าเว็บของเรามีคุณภาพดีพอในสายตาของ Google แล้วหรือยัง ลองเอาชื่อโดเมนเว็บของคุณ แบบไม่ต้องใส่นามสกุลนะไปค้นหาบน Google ดูครับ
สารบัญเนื้อหา
คลิกดูเนื้อหาที่ละตอนได้
ประหยัดเวลาเรียนรู้ สนใจเรียน SEO รอบสอนสด คลิกดูข้อมูลเพิ่มเติม
1. Sitelinks คืออะไร
Google Sitelinks คือ ลิงค์ที่แสดงผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องกับคำที่ค้นหา จะแสดงอยู่ใต้ล่าง Title และ Meta Description ด้านบนสุด โดยทั่วไปจะแสดงผลเมื่อเราค้นหาด้วย ชื่อ Brand ของสินค้า หรือชื่อเว็บไซต์นั้นตรงๆ (โดยไม่ต้องใส่ .com หรือนามสกุลของโดเมนต่อท้าย) แต่ไม่ใช่ทุกเว็บจะถูกเลือกให้มีการแสดงผลแบบเป็น Sitelinks
เริ่มมีการแสดงผลลัพธ์แบบ Sitelink มาแต่งแต่ปี 2005 และได้มีพัฒนาการรูปแบบการแสดงผลลัพธ์มาเรื่อยๆ ด้านล่างคือรูปการณ์แสดง Sitelink ช่วงแรกๆ ของ Google ในปี 2007
2. ประโยชน์ของ Sitelinks
จุดมุ่งหมายของการแสดง Sitelinks คือ การช่วยให้ user ได้เห็นเมนูเนื้อหาต่างๆ ของเว็บ เมื่อเขาค้นหาชื่อ Brand หรือชื่อเว็บไซต์นั้นๆ ก่อนที่จะคลิกเข้าไปสู่หน้า Home บนเว็บของเรา เพราะบางที่เขาอาจจะสนใจเรื่องอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับสินค้าหรือบริการของเราอยู่ก็ได้ ซึ่งจะทำให้ผู้ใช้ประหยัดเวลา และค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
สำหรับประโชน์เพิ่มเติมของการมี Google sitelinks มีดังนี้
- เพิ่มจำนวนการคลิกเข้าสู่เว็บไซต์ (CTR)
- เพิ่มจำนวนคนคลิกหน้าอื่นๆ บนเว็บของเราที่ไม่ใช่เฉพาะหน้า Home
- ช่วยให้ผู้ใช้งานประหยัดเวลา และค้นหาข้อมูลที่ต้องการได้อย่างรวดเร็ว
- เป็นสัญญาบ่งชี้ว่าเว็บของเราได้รับความน่าเชื่อถือจาก Google
- Sitelinks เป็นตัวช่วยสร้าง Brand awareness ได้เป็นอย่างดี
ตัวอย่างเช่น เว็บของเรามีการสินค้า หรือบริการอะไรอยู่ เมื่อลูกค้าค้นหาชื่อ Brand ของเราตรงๆ สิ่งที่เขาจะเห็นนอกจากข้อมูลหน้าหลัก เขายังจะสามารถรับรู้ได้ทันทีว่า เรามีบริการหรือขายสินค้าอะไรอยู่บ้าง อย่างเช่นผมมีบริการ สอน SEO WordPress ผู้คนก็รับรู้สิ่งที่ผมทำได้ง่ายขึ้นนั้นเอง
มีแค่เว็บที่มีคุณภาพดีเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสติดหน้าแรก Google ได้ ไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้เอง ผมขอแนะนำให้มาเรียนครับ ดูรายละเอียด และค่าเรียนได้ที่นี่
3. ประเภทของ Sitelinks
ปัจจุบันการแสดงไซต์ลิงค์นั้น มีการแสดงผลได้หลายรูปแบบ ซึ่งเราหลายๆ คนอาจยังไม่เคยสังเกตมาก่อนก็ได้
1) Homepage general sitelinks
2) Homepage E-commerce Sitelinks
จะมีช่องค้นหา (Search box) เพิ่มขึ้นมา
3) One-line Sitelinks
จะแสดงรูปแบบไซต์ลิงค์แนวนอนที่อยู่บนบรรทัดเดียว
4) Google mobile sitelinks
Homepage mobile sitelinks
Slide tab sitelinks
สำหรับ Google Sitelinks ที่แสดงผลบนมือถือ จะมีการแสดงผลเป็น 2 แบบ คือ แสดงไซต์ลิงค์ที่ละบรรทัด ซึ่งหน้านี้เราจะได้มาเฉพาะหน้าที่เป็น homepage
ส่วนแบบที่ 2 จะเป็น sitelink ที่เป็น Slide tab คือเอานิ้วปัดเลื่อนหัวข้อไซต์ลิงค์ ซ้าย-ขวา ได้ ซึ่งจะแสดงที่หน้าอื่นๆ ที่ไม่ใช้ Homepage
Google Sitelinks ไม่ได้แสดงผลลัพธ์กับทุกเว็บไซต์
ถ้าใครที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ แล้วลองค้นหาชื่อเว็บตัวเองบน Google แล้วจะพบว่าไม่ใช่เว็บของทุกคนจะมีการแสดงผลเป็นแบบ Sitelink
คำอธิบายจาก Google โดยตรงเป็นดังนี้
เราจะแสดงไซต์ลิงก์ในผลการค้นหาต่อเมื่อเราคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้เท่านั้น หากโครงสร้างเว็บไซต์ของคุณไม่อนุญาตให้อัลกอริทึมของเราค้นหาไซต์ลิงก์ที่ดี หรือเราคิดว่าไซต์ลิงก์สำหรับเว็บไซต์ของคุณไม่เกี่ยวข้องกับคำค้นหาของผู้ใช้ เราจะไม่แสดงไซต์ลิงก์เหล่านั้น
4. วิธีการสร้าง Google Sitelinks
สำหรับวิธีการสร้าง Sitelink นั้นไม่มีสูตรสำเร็จ เพราะ Google จะเป็นคัดเลือกเองโดยอัตโนมัติ สิ่งที่เราจะพอทำได้คือทำในสิ่งที่ google algorithm ต้องการ คือ ทำให้โครงสร้างลิงค์ของเว็บให้มีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย และทำสิ่งที่คิดว่าเป็นประโยชร์ต่อผู้เข้าชมเว็บของเรา
โดยเราจะแบ่งการทำออกเป็น 2 วีธีคือ 1) สร้าง homepage sitelinks กับ 2) One-line Sitelinks ส่วนการแสดงผล Sitelink ที่มือถือจะแสดงผลเป็นอัตโนมัติ เมื่อเราทำให้ Sitelinks ปกติแสดงผลได้แล้ว
วิธีสร้าง Homepage sitelinks
1) เพื่อให้ Google เข้าใจโครงสร้างและเนื้อหาบนเว็บของเรา สิ่งแรกสุดที่ทุกเว็บไซต์ต้องทำคือ การเชื่อมต่อเว็บเข้ากับ Google search console
2) ส่ง Site map เข้าไปที่ Google search console แม้ว่าในระยะหลัง Google ไม่ค่อยได้ให้ความสำคัญกับ Site map บนเว็บมากนักก็ตาม
3) ปรับแต่งในส่วนของ Home page title ต้องมีคำที่เป็นชื่อเว็บ หรือชื่อ Brand ของเราปรากฏอยู่ด้วย ใครยังไม่รู้วิธีเขียน SEO Title เข้าไปดูวิธีการทำที่บทความนี้นะ วิธีการเขียน SEO title อย่างไรให้ถูกวิธี
4) อายุของเว็บไซต์ผ่านช่วงฝึกงานรึยัง คือ 3-6 เดือนขึ้นไปนะ
5) เมนูของเว็บ เขียนด้วยคำที่สั้นๆ เข้าใจง่ายๆ
6) เนื้อหาที่เว็บของเราต้องมี มีจำนวนหน้า page/post มากกว่า 10 หน้าขึ้นไป
7) หน้าเว็บเพจเหล่านั้น ต้องมีโครงสร้างเนื้อหา on page ที่เป็น SEO ด้วย (ใครอยากรู้ว่า on page SEO โครงสร้างเป็นยังไง ไปดูที่บทความนี้นะ การเขียนบทความให้ถูกหลัก SEO ด้วย Yoast)
8) เว็บต้องมีคนเข้ามาชม มาคลิก มาเห็นพอสมควร ช่วงแรกเขียนบทความเสร็จต้องหาที่ปล่อยนะ ปล่อยไปยัง Social media ทุกช่องทางที่เขาให้วางลิงค์เว็บของเรา หรือใช้การยิงโฆษณาผ่าน Facebook เข้ามาช่วยครับ
วิธีสร้าง One-line Sitelinks
Sitelinks ประเภทนี้จะเกิดขึ้นได้กับทั้งหน้าที่เป็น page และ post
1) หน้าที่จะเกิด One-line Sitelinks ต้องมีเนื้อหาขนาดยาว คือมีจำนวนข้อความ 1000 คำขึ้นไป
2) โครงสร้างเนื้อหา on page ที่เป็น SEO ด้วย ดูการการทำที่หัวข้อด้านบนนะ
3) แบ่งเนื้อหาขนาดยาวออกเป็นหัวข้อให้ชัดเจน เพื่อให้คนอ่านเข้าใจเนื้อหาของเราง่ายที่สุด
4) ตัวที่เป็นหัวข้อหลัก ในบทความให้ใช้ฟอนต์ขนาด H2 เท่านั้น
4) ด้านล่างของย่อหน้าแรกของบทความ จงสร้างสารบัญเนื้อหา (table cotent) แต่ให้ทำเป็นลิงค์เชื่อมโยงเมื่อคลิกแต่ละหัวข้อ แล้วจะวิ่งไปหา เนื้อหาตามหัวข้อหลักที่เราตั้งเอาไว้ ตรงจุดนี้เราจะใช้ปลั๊กอิน Easy Table of Contents (แต่หาก page builder ที่เราใช้มีฟังชั่น Page scroll to อยู่แล้ว ก็ให้ใช้ตัวที่มากับ builder ได้เลย
อ่านเพิ่มเติม: วิธีสร้างสารบัญ บน WordPress ให้ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำ SEO
เพื่อให้เห็นภาพการสร้างสารบัญเนื้อหา ลองเข้าไปดูตัวอย่าง ได้ที่บทความนี้ครับ 7 เว็บไซต์แหล่งเรียนรู้ SEO ระดับโลก เพื่อให้คุณทำ SEO ระดับมือโปร
บทสรุป
Google Sitelinks คือสิ่งที่แสดงว่าเว็บเรามีคุณภาพดี และได้รับความเชื่อถือจาก Google ช่วยให้เราทำ SEO ติดอันดับหน้าแรกได้ง่ายขึ้น แต่ไม่ใช่ทุกเว็บไซต์จะแสดง sitelinks ทาง Google จะเป็นผู้คัดเลือกแล้วนำมาแสดงเอง หากใครปรับเนื้อหาเว็บตามคำแนะนำข้างบนเรียบร้อยแล้ว ให้ทำใจเย็นๆ Google เขามีรอบของการเข้า-ออกมาเก็บข้อมูลเว็บ ถ้าวันนึงเขาชอบเว็บเรา Sitelinks มันจะแสดงเองครับผม
บทความน่าสนใจ
ฟรี SEO Tool วิเคราะห์เว็บไซต์
similarweb.com
- วิเคราะห์ traffic คนเข้าเว็บ
- วิเคราห์ว่าคนเข้ามาเว็บเราจากช่องทางไหนบ้าง
- คำไหนที่ถูกค้นหาเจอเยอะที่สุด
- สามารถเปรียบเทียบกับเว็บอื่นๆ ได้
- แต่สถิติพวกนี้จะแสดงถูกต้องเฉพาะเว็บที่มีคนเข้าชมเยอะ คือ หลักแสนขึ้นไป
- ถ้าเว็บไหนมี traffic น้อย ข้อมูลอาจไม่แสดง หรือแสดงไม่ถูกต้อง
alexa.com
- เช็ค Traffic คนเข้าเว็บ แต่จะแสดงเป็นแบบ rank แทน
- เอาไว้ใช้กรณีที่เราไปเช็คที่ similar เว็บแล้วสถิติไม่ขึ้น
- ดู Bounce Rate, Daily Pageviews per Visitor และ Daily Time on Site ภาพรวมได้
- ดู keyword ที่มีคนค้นหาเยอะๆ
kwfinder.com
ในตัวของ kwfinder ยังแบ่งฟันชั่นการวิเคราะห์ออกเป็น 4 ประเภท
- KW finder ใช้วิเคราะห์ keword และปริมาณการค้นหา พร้อมกับแสดงหน้า Google SERP
- SERP Checker แสดงหน้า SERP แบบละเอียด แยกการแสดงผลระหว่าง desktop กับ mobile
- SERP Watcher แสดง Keyword Ranking ที่เราอยากรู้ของเว็บนั้นๆ
- Link Miner เอาไว้เช็คว่าเว็บคู่แข่งมี back link มาจากที่ไหนบ้าง
Mozbar
เป็น extension ที่เราสามารถติดตั้งลงไปที่ chrome ได้เลย
- เช็คโครงสร้างเนื้อหา ดูพวก Page Title, Meta Description
- เช็คจำนวนของ H1, H2, Alt text ในแต่ละหน้าเว็บ
- ดูความเร็วการเปิดหน้าเว็บ
- ดูค่า PA DA
- เช็คจำนวน internal link และ external
serprobot.com
อีกหนึ่งเว็บเช็คอันดับ keyword เผื่อใครยังไม่เคยลองเล่น ใครสร้างอันนี้ผมไม่รู้ แต่ผมว่าโปรแกรมที่เขาเขียนสำหรับการดึงข้อมูลจาก Google มาใช้จัดเรียงอันดับ มันดูง่าย เราสามารถเช็คอันดับ keyword ได้ครั้งละ 5 คำเลยนะ ลองเข้าไปเล่นดูนะ
Google PageSpeed Insights
การปรับความเร็วเว็บนั้นไม่ง่าย เพราะต้องอาศัยความรู้เชิงเทคนิคนิดหน่อย คำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ เราไม่จำเป็นต้องปรับ speed ให้ได้คะแนนะ 100% เพราะเว็บเราอาจพังได้ ปรับให้ได้สัก 70% ขึ้นไปก็เพียงพอแล้วครับ
gtmetrix.com
อีกหนึ่งเว็บที่ไว้สำหรับเช็คความเร็วหน้าเว็บของเรา แต่เหมือนเดิมการปรับความเร็วเว็บ อยู่ไปยึดติดที่ตัวเลขมากนัก เพราะหลายๆ ครั้งตัวเลขสูงแต่เว็บเปิดช้าก็มี ดังนั้นนอกจากดูที่ตัวเลข ดูที่ความรู้สึกตอนเปิดเว็บของเราจริงๆ ถ้าไม่หมุนช้าจดหงุดหงิด ก็ถือว่าใช้ได้แล้วนั้นเอง
ประชาสัมพันธ์
สำหรับท่านใดที่อ่านบทความนี้แล้ว สนใจการทำ SEO บน WordPress แบบจริงจัง ในวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564 นี้ ผมได้เปิดคอร์สสอน SEO WordPress แบบกลุ่มเล็กๆ 1 รอบ สอนสดรอบละ 10 คน เพื่อให้ผู้เรียนได้ประโยชน์สูงสุด เรียนรู้และทำตามไปพร้อมๆ กันได้
รายละเอียดคอร์สเรียน
SEO WordPress
- ค่าเรียน 6,500 บาท
- เรียนวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564
- ระยะเวลาเรียน 6 ชั่วโมง
- เราเปิดสอน 1 รอบ
รอบเช้า 10.00 – 16.00 น. (ว่าง) - เรียนกลุ่มเล็กรอบละ 10 คนเท่านั้น
- สถานที่เรียน Seatz Station
- ปากซอยงามวงศ์วาน 44 ก่อนถึง รพ.วิภาวดี ฝั่งตรงข้าม ม.เกษตรประตูงามวงศ์วาน 3
- จองที่นั่งเรียนผ่าน Lind ID : padveewebschool ได้เลยครับ
ทุกคอร์สเรียนรอบสอนสด
ได้คอร์สเรียนออนไลน์แถมฟรีครับ
ตัวอย่างผลงาน
SEO Ranking ของเรา
**ประกาศ**
สำหรับการเรียนแบบส่วนตัว 1 ต่อ 1 หรือกลุ่มส่วนตัว แบบสอนนอกสถานที่ ผมไม่รับสอนเว็บพนัน เว็บบอล เว็บหวย เว็บสายเทาทุกชนิดครับ
จะเว็บสายขาว หรือเว็บสายเทา การทำ SEO ใช้หลักการเดียวกันหมดครับ เพราะการทำ SEO ในยุคปัจจุบัน ไม่มีใครสามารถโกง Google ได้นั้นเอง
หากเว็บคุณเป็นสายเทา แต่สนใจเรียน SEO ด้วยวิธีการที่ถูกต้องตามหลัก Google ก็มาเรียนได้ครับ แต่ให้ลงเรียนรอบสอนกลุ่มปกติ ที่สอนรอบละ 10 คนแทนนะ
แน่นอนวันเรียน คือ เรียนจาก case study จากเว็บหลายๆ แบบ แต่จะไม่มีการยกเว็บพนันมาเป็น case study แต่คุณก็สามารถนำความรู้จากคลาสเรียนนี้ไปปรับใช้กับเว็บตัวเองได้ครับ ไม่มีปัญหา เพราะหลักการทำ SEO นั้นเป็นหลักการสากล นำไปปรับใช้ได้กับเว็บทุกชนิด จะเว็บสายขาย หรือสายเทา หลักการที่ผมสอนนี้ใช้ได้ทั้งหมด
แจ้งไว้ให้ทราบทั่วกัน และขออภัยในความไม่สะดวกครับผม...
แผนที่สถานที่เรียน (รอบสอนกลุ่ม)
สถานที่เรียน Seatz Station
ปากซอยงามวงศ์วาน 44 ก่อนถึง รพ.วิภาวดี
ฝั่งตรงข้าม ม.เกษตรประตูงามวงศ์วาน 3