เรียนรู้วิธีการสร้าง Link Building ให้มีประสิทธิภาพ แยกแยะการทำลิงค์ประเภทต่างๆ Link แบบไหนส่งผลดีต่อการทำ SEO มากที่สุด
หลักเกณฑ์สำคัญในการทำ On Page SEO คือ ทุกหน้าเว็บต้องมี Internal/External link ทำไมเราต้องใส่ลิงค์ลงไปในเนื้อหาของเราด้วย บทความชุดนี้มีคำตอบครับ
สารบัญเนื้อหา
- Link building คืออะไร
- ประโยชน์ของการสร้าง Link เชื่อมโยงข้อมูล
- ประเภทของ Link
- ทำความเข้าใจลักษณะของ Link
- ตำแหน่งวางลิงค์บนเว็บไซต์
- สรุป
เรียน SEO ออนไลน์ฟรี 4 บทเรียน ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญที่สุดของการทำ SEO
คลิกเข้าเรียนที่นี่1. Link building คืออะไร
Link Building คือ การเชื่อมโยงเนื้อหาบนเว็บ ทั้งภายในเว็บเราเองและจากเว็บภายนอก ด้วย Hyperlink ซึ่งเป็นกลยุทธ์สำคัญในการทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพ การทำ Link Building ถือเป็นกฎเหล็กในการทำ SEO ในปี 2020 เลยก็ว่าได้
2. ประโยชน์ของการสร้าง Link เชื่อมโยงข้อมูล
ก่อนที่เราจะลงมือสร้าง Link Building ลองมาทำความเข้าใจประโยชน์ของการสร้างลิงค์กันก่อนว่ามีอะไรบ้าง
2.1) ทำให้ Google เข้าใจเนื้อหาบนเว็บของเรา ได้ง่ายขึ้น
แต่เงื่อนไขจุดนี้ เว็บของคุณต้องมีจำนวนของบทความที่มากพอด้วย เพื่อให้ Google Bot วิ่งเก็บข้อมูลตามลิงค์ที่เราเชื่อมโยงไว้บนเนื้อหา
2.2) ช่วยให้เว็บเราผ่านเกณฑ์ E-A-T Factor
E-A-T Factor คือ หลักเกณฑ์ในการสร้างเนื้อหาอย่างมีคุณภาพ จำนวนลิงค์ที่มากพอจะช่วยในจุดนี้ครับ
2.3) เป็นตัวดันให้หน้า Keyword สำคัญติดหน้าแรก Google
การทำ Link building จะช่วยให้คนคลิกเนื้อหาจากบทความวิ่งเข้ามายังหน้าที่เป็น Landing Page ของ Keyword สำคัญๆ บนเว็บของเราได้เป็นอย่างดี ช่วยให้หน้าหลักติดอันดับหน้าแรก Google ได้
2.4) ช่วยลด Bounce rate
ถ้าคุณวางแผนทำลิงค์ให้ดี พอคนมาอ่านบทความนึง ตัวลิงค์จะช่วยให้คนอ่านเดินหน้าเปิดเว็บเราต่อ เมื่อเปิดเว็บเราต่อหลายๆ หน้า ก็จะเป็นการช่วยลด Bounce rate ได้นั้นเอง
อ่านเพิ่มเติม: Bounce rate คืออะไร
2.5) เพิ่ม Pageviews per Visitor
แน่นอนเมื่อคุณวางแผนทำ Link building มาอย่างดี 1 คนที่เข้ามาอ่านเนื้อหาบนเว็บของเรา ก็จะเปิดหน้าเว็บต่อไปอีกได้หลายๆ หน้า ผ่านลิงค์ต่างๆ ที่เราได้ทำเชื่อมโยงเอาไว้แล้ว
2.6) ช่วยปลุกชิวิตบทความเก่าๆ ให้คืนชีพ
หากเว็บของคุณมีบทความจำนวนมาก และบางบทความอยู่ลึกเกินไป คนเข้าไปอ่านบทความนั้นไม่ถึง คุณจำเป็นต้องทำ Internal link ไปช่วย คือ ให้คนอ่านบทความนี้ แล้วคลิกเปิดต่อไปยังบทความเก่าๆ
2.7) ช่วยรักษาอันดับ keyword ที่ติดหน้าแรก
การรักษาอันดับ คือ การที่คุณเติมบทความใหม่ๆ เข้าไปบทเว็บ และทุกบทความใหม่ๆ ทำลิงค์ส่งไปหาหน้า Keyword เก่าๆ ที่ยังติดอันดับหน้าแรก Google อยู่
จะสร้าง link building ให้ได้ผล เว็บคุณจำเป็นต้องมีบทความจำนวนมากพอ
Star Trek คือ Keyword หลัก (Core Topic)
ต้องแตกประเด็นของคำว่า Star Trek มาทำเป็นบทความ (Subtopic)
ในทุกบทความต้องทำลิงค์ (Hyperlinks) เชื่อมโยงเนื้อหาจากประเด็นหลัก ออกไปประเด็นรอง และจากประเด็นรองให้วิ่งกลับมาที่ประเด็นหลักด้วยเสมอ
การทำลิงค์ลักษณะนี้บางครั้งเราจะเรียกกันว่า การทำ Content Hub
3. ประเภทของ Link
Link Building ที่เราจะสร้างกันหลักๆ แบ่งลิงค์ออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
3.1) Internal Link
ลิงค์ที่เชื่อมโยงเนื้อหาภายในเว็บของคุณเอง
3.2) External Link
ลิงค์ที่เชื่อมโยงเว็บของคุณ กับเว็บคนอื่น คือกดลิงค์บนเว็บของคุณ แล้วไปเปิดหน้าเว็บของคนอื่นนั้นเอง
อ่านต่อ: เทคนิคสร้าง Internal/External Link
3.3) Backlink
Backlink คือ ลิงค์จากเว็บอื่นๆ ที่ชี้กลับมาที่เว็บไซต์ของเรา เป็นสิ่งที่บอก Google ให้รู้ว่าเนื้อหาของเว็บไซต์เราได้รับการยอมรับส่งผลให้เราได้คะแนน SEO จาก Google มากขึ้นไปด้วย
อ่านเพิ่มเติม: คู่มือการสร้าง Backlink 2020
4.ทำความเข้าใจลักษณะของ Link
นอกจากประเภทของลิงค์ ในหัวข้อด้านบน สิ่งที่คุณต้องทำความเข้าใจเพิ่มเติม คือ ลักษณะของ Link ลักษณะของลิงค์ คืออะไร ลองมาดูตัวอย่างกันครับ
ลักษณะของ Link จะมีอยู่ด้วยกัน 6 ประเภท
4.1) Exact-match Link
คือ ลิงค์ที่เป็นคำตรงตัวกับ Keyword ในหน้า Landing Page ที่คุณต้องการ (เป็น text link ที่ตรงกับ Keyword ตรงๆ เลย)
ตัวอย่าง Exact-match Link
เช่น เว็บผมมีคำ Keyword เป้าหมายที่ผมอยากให้ติดหน้าแรกมากที่สุดอยู่ 3 คำ ผมก็ทำลิงค์ไปที่ keyword นั้นแบบตรงๆ เลย เพื่อส่งไปยังหน้า Landing page ของหน้า Keyword นั้น
ตัวอย่าง Exact-match Link
4.2) Partial-match Link
คือ ลิงค์ที่เป็น Text link เป็นคำที่เราเขียนเป็นประโยค แต่มีคำที่มี main keyword ผสมอยู่ด้วย
ตัวอย่าง
- สูตรการหา Keyword เพื่อทำ SEO
- Roadmap สอน SEO step by step
- ทำความรู้จักการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- How Does A Chatbot Work?
จะสังเกตเห็นว่าในประโยคที่เราทำลิงค์ ต้องมีคำ keyword ของหน้าหลักผสมอยู่ด้วย
4.3) Branded Link
Text link ที่เป็นชื่อแบรนด์ หรือชื่อโดเมน ของเราไปเลย
ตัวอย่าง
4.4) Naked Link
คือ ลิงค์ที่เราเขียนเป็น URL ไปเลย
ตัวอย่าง
- https://padvee.wpsource.in.th/wordpress-for-beginners/
- https://online.korpungun.com/courses/
- https://padvee.wpsource.in.th/seo-tools/
4.5) Generic Link
ลิงค์ที่เป็นคำกระตุ้นให้คนอยากกด หรือที่เราเรียกกันว่าลิงค์เรียกแขก เช่น การใช้คำเหล่านี้
- อ่านเพิ่มเติม
- คลิกเลย
- คลิกที่นี่
- Click Here
ตัวอย่างการใช้ Generic Link
4.6) Images Link
คือ ลิงค์ที่เรากดผ่านมาจากรูปภาพ โดยให้เอาคำ keyword ไปวางไว้บน Alt text ของรูปภาพนั้นด้วย
อ่านเพิ่มเติม: การทำ SEO รูปภาพ บน WordPress
ลักษณะของ Link ทั้ง 6 ประเภท ลิงค์ที่มีพลังเยอะ คือ ลิงค์ประเภท Exact-match กับลิงค์แบบ Partial-match ดังนั้น การสร้าง Link building ที่ดีคุณต้องกระจายลิงค์ ทั้ง 2 ประเภทนี้ ให้ทั่วถึงในทุกๆ บทความ
5. ตำแหน่งวางลิงค์บนเว็บไซต์
พอคุณเข้าใจลักษณะของลิงค์แล้ว อันดับต่อมา คุณต้องนำลิงค์เหล่านั้นมาวางบนตำแหน่งต่างๆ บนเว็บไซต์
เราสามารถวางลิงค์ไว้ 4 จุดหลักๆ บนเว็บไซต์
- วางที่เมนู (เมนูบนเว็บไซต์ ถือว่าเป็น link ทั้งหมดครับ)
- วางที่เนื้อหา
- วางที่ Sidebar
- และวางที่ footer
Google ไม่ได้ให้ความสำคัญของจำนวนลิงค์ใน 1 หน้าเว็บ แต่ Google ให้ความสำคัญของลิงค์ที่ถูกกด ดังนั้น คุณต้องออกแบบลิงค์ให้มันดูน่ากดเข้าไปอ่านด้วยนั้นเอง เช่น คุณอาจจะเปลี่ยนสีของลิงค์ให้มันแตกต่างจากตัวอักษรทั่วไปก็ได้
นอกจากนี้ Google ให้ความสำคัญของการกดลิงค์แต่ละจุดไม่เท่ากัน ลิงค์ที่มีพลังมากที่สุดเมื่อถูกกด คือ ลิงค์ที่วางอยู่ในเนื้อหาครับ ลิงค์จาก sidebar และ footer นั้นไม่ค่อยมีพลัง แต่เราก็ควรใส่ลิงค์ลงไปด้วย แม้ว่าจะได้คะแนนน้อย แต่ก็ดีกว่าไม่ได้คะแนนอะไรเลย
6. สรุป
การสร้าง Link Building สำหรับการทำ SEO มีลักษณะเหมือนงานศิลปะ ไม่มีเทคนิคตายตัว แต่เป้าหมายของการสร้างลิงค์ คือ ลิงค์ที่เราสร้างนั้นต้องถูกคนจริงๆ กดด้วย หากคุณใส่แต่ลิงค์ลงไปเยอะๆ ไม่มีความหมายถ้าไม่มีคนกด ดังนั้น คุณจำเป็นต้องเขียนเนื้อหาหรือบทความให้มันน่าอ่านด้วยนั้นเอง
บทความชุด Link Building จะประกอบด้วย 3 บทความ บทความนี้คือ บทความที่ 1 เพื่อให้พวกเราเห็นภาพรวมเกี่ยวกับเรื่อง Link ยังมีอีก 2 บทความคือ เทคนิคการทำ Internal/External Link และ คู่มือการสร้าง Backlink 2021
ประชาสัมพันธ์
สำหรับท่านใดที่อ่านบทความนี้แล้ว สนใจการทำ SEO บน WordPress แบบจริงจัง ในวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564 นี้ ผมได้เปิดคอร์สสอน SEO WordPress แบบกลุ่มเล็กๆ 1 รอบ สอนสดรอบละ 10 คน เพื่อให้ผู้เรียนได้ประโยชน์สูงสุด เรียนรู้และทำตามไปพร้อมๆ กันได้
รายละเอียดคอร์สเรียน
SEO WordPress
- ค่าเรียน 6,500 บาท
- เรียนวันเสาร์ที่ 14 สิงหาคม 2564
- ระยะเวลาเรียน 6 ชั่วโมง
- เราเปิดสอน 1 รอบ
รอบเช้า 10.00 – 16.00 น. (ว่าง) - เรียนกลุ่มเล็กรอบละ 10 คนเท่านั้น
- สถานที่เรียน Seatz Station
- ปากซอยงามวงศ์วาน 44 ก่อนถึง รพ.วิภาวดี ฝั่งตรงข้าม ม.เกษตรประตูงามวงศ์วาน 3
- จองที่นั่งเรียนผ่าน Lind ID : padveewebschool ได้เลยครับ
ทุกคอร์สเรียนรอบสอนสด
ได้คอร์สเรียนออนไลน์แถมฟรีครับ
ตัวอย่างผลงาน
SEO Ranking ของเรา
**ประกาศ**
สำหรับการเรียนแบบส่วนตัว 1 ต่อ 1 หรือกลุ่มส่วนตัว แบบสอนนอกสถานที่ ผมไม่รับสอนเว็บพนัน เว็บบอล เว็บหวย เว็บสายเทาทุกชนิดครับ
จะเว็บสายขาว หรือเว็บสายเทา การทำ SEO ใช้หลักการเดียวกันหมดครับ เพราะการทำ SEO ในยุคปัจจุบัน ไม่มีใครสามารถโกง Google ได้นั้นเอง
หากเว็บคุณเป็นสายเทา แต่สนใจเรียน SEO ด้วยวิธีการที่ถูกต้องตามหลัก Google ก็มาเรียนได้ครับ แต่ให้ลงเรียนรอบสอนกลุ่มปกติ ที่สอนรอบละ 10 คนแทนนะ
แน่นอนวันเรียน คือ เรียนจาก case study จากเว็บหลายๆ แบบ แต่จะไม่มีการยกเว็บพนันมาเป็น case study แต่คุณก็สามารถนำความรู้จากคลาสเรียนนี้ไปปรับใช้กับเว็บตัวเองได้ครับ ไม่มีปัญหา เพราะหลักการทำ SEO นั้นเป็นหลักการสากล นำไปปรับใช้ได้กับเว็บทุกชนิด จะเว็บสายขาย หรือสายเทา หลักการที่ผมสอนนี้ใช้ได้ทั้งหมด
แจ้งไว้ให้ทราบทั่วกัน และขออภัยในความไม่สะดวกครับผม...
แผนที่สถานที่เรียน (รอบสอนกลุ่ม)
สถานที่เรียน Seatz Station
ปากซอยงามวงศ์วาน 44 ก่อนถึง รพ.วิภาวดี
ฝั่งตรงข้าม ม.เกษตรประตูงามวงศ์วาน 3