วิธีใช้งาน Woocommerce ตัดบัตรเครดิต ทำได้หลายวิธีนอกการใช้ Paypal ก็ยังมีอีกหนึ่งเจ้า คือ Omise ซึ่งเป็น Payment gateway ของคนไทยด้วย และมีวิธีการสมัครง่ายกว่า payment gateway ของหลายๆ เจ้า สำหรับวิธีการเปิดใช้งาน Woocommerce กับ Omise มีดังนี้ครับ
วิธีใช้งาน Woocommerce ตัดบัตรเครดิต ด้วย Omise
1. เข้าไปลงทะเบียนและเปิดใช้บริการที่เว็บของ Omise เป็นอันดับแรกเลยครับ
2. หลังจากเข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้ว จะมีหน้าต่างให้เข้าใช้งานได้ 2 แบบ
- หน้าแรกในโหมด Test เอาไว้ใช้ทดสอบระบบตัดบัตรเครดิตว่าทำงานได้หรือยัง เอาไว้ใช้ในช่วงเวลาที่ทาง Omise กำลังพิจารณาอนุมัติการเข้าใช้งานของเราอยู่ครับ
- หน้าแรกในโหมด Live หน้านี้คือหน้าที่เราจะเอาข้อมูลจริงไปใส่บนเว็บของเรา เพื่อให้ Woocommere ตัดบัตรเครดิต ได้จริงครับ แต่เราต้องกรอกข้อมูล และยื่นเอกสารประกอบการสมัคร ส่วนเรื่องเอกสารว่าต้องเตรียมอะไรบ้าง เดี๋ยวผมจะอธิบายไว้ด้านล่างของบทความนะครับ
มีแค่เว็บที่มีคุณภาพดีเท่านั้น ถึงจะมีโอกาสติดหน้าแรก Google ได้ ไม่ต้องเสียเวลาเรียนรู้เอง ผมขอแนะนำให้มาเรียนครับ ดูรายละเอียด และค่าเรียนได้ที่นี่
3. ให้ไปติดตั้งปลั๊กอิน Omise บนเว็บไซต์ของเราครับ อย่าลืมคลิกเปิดใช้งานปลั๊กอินด้วยนะครับ
4. หลักจากลงปลั๊กอินเรียบร้อยแล้วให้เราไปที่ omise > settings
5. ให้กลับไปหน้าเพจของ Omise เพื่อเอารหัส Key ต่างๆ มาใส่ในเว็บของเรา โดยเริ่มจาก เอา Public key และ Secreat key for test มาใช้ก่อนได้เลย
กลับมาที่หลังบ้านเว็บของเรา ติ๊ก Enable Omise และหากเรายังรอการอนุมัติจากทาง Omise ให้ติ๊ก Test mode เพื่อจะได้ใช้งานในโหมด TEST ได้
หากเราส่งเอกสารให้ทาง Omise ครบ และเขาอนุมัติการใช้งานแล้ว เราก็สามารถ ไปเอารหัส Public key และ Secret key for live ในหน้าแรกโหมด Live มาใส่ได้เลยครับ
6. กลับไปที่ woocommerce > settings > payment คลิกเปิดใช้งาน Omise Credit / Debit Card จากนั้นให้คลิก setup
7. ที่หน้า set up เราสามารแก้คำ Title และรูปแสดงตัวอย่างบัตรเครดิต ตอนที่ลูกค้า checkout ได้ด้วยนะครับ ให้เราเข้าไปตรง ส่วนการกำหนดตั้งค่าต่างของ Omise ที่อยู่ใน Woocommerce ได้เลย
8. ตอนนี้ลูกค้าของเราก็สามารถใช้งานระบบชำระเงินผ่านบัตรเครดิตได้แล้วครับ
เอกสารประกอบการสมัครใช้งาน Omise
หากเป็นบัญชีส่วนบุคคลต้องใช้เอกสารดังนี้
- บัตรประจำตัวประชาชน
- สำหรับชาวต่างชาติ ใช้พาสปอร์ต ใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย และหลักฐานยืนยันที่อยู่:ทะเบียนบ้าน ท.ร.13 (เล่มสีเหลือง) หรือใบแจ้งยอดบัตรเครดิต หรือใบแจ้งยอดสาธารณูปโภค ซึ่งระบุชื่อและที่อยู่ปัจจุบัน
- หน้าแรกของสมุดบัญชีธนาคารที่ต้องการใช้เชื่อมกับบัญชี Omise เพื่อรับเงินโอนเข้า โดยบัญชีจะต้องเป็นของธนาคารในประเทศไทย และชื่อบัญชีจะต้องตรงกับชื่อบนบัตรประชาชน
- เอกสารแสดงความเป็นเจ้าของเว็บไซต์หรือใบเสร็จรับเงินในการสมัครโดเมนของคุณ
- รายการเดินบัญชีย้อนหลัง (อาจจำเป็นต้องใช้ในบางกรณี)
สำเนาเอกสารทั้งหมดต้องลงลายมือชื่อ พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง
หากเป็นธุรกิจต้องใช้เอกสารดังนี้
- หนังสือรับรองบริษัท (DBD)
- แบบ บอจ. 3 รายการจดทะเบียนจัดตั้ง
- แบบ บอจ. 5 สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้น
สำเนาบัตรประชาชนผู้ถือหุ้นตั้งแต่ 25% ขึ้นไป (สำหรับชาวต่างชาติ ใช้พาสปอร์ต) - ใบทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่ม ภ.พ. 20 (ถ้ามี)
- สำเนาบัตรประชาชนคณะกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม
- สำหรับชาวต่างชาติ ใช้พาสปอร์ต ใบอนุญาตทำงานในประเทศไทย และหลักฐานยืนยันที่อยู่:ทะเบียนบ้าน ท.ร. 13 (เล่มสีเหลือง) หรือ ใบแจ้งยอดบัตรเครดิต หรือใบแจ้งยอดสาธารณูปโภค ซึ่งระบุชื่อและที่อยู่ปัจจุบัน
- หน้าแรกของสมุดบัญชีธนาคารที่ต้องการใช้เชื่อมกับบัญชี Omise เพื่อรับเงินโอนเข้า โดยบัญชีจะต้องเป็นของธนาคารในประเทศไทย และชื่อบัญชีจะต้องตรงกับชื่อที่ระบุบนหนังสือรับรองบริษัท
- เอกสารแสดงความเป็นเจ้าของเว็บไซต์หรือใบเสร็จรับเงินในการสมัครโดเมนของคุณ
- รายการเดินบัญชีย้อนหลัง (อาจจำเป็นต้องใช้ในบางกรณี)
สำเนาเอกสารทั้งหมดต้องลงลายมือชื่อโดยคณะกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม พร้อมรับรองสำเนาถูกต้อง และประทับตราสำคัญของบริษัท
หากสมัครเป็นบัญชีส่วนบุคคลจะใช้เวลารอการตรวจเช็คเอกสารและอนุมัติไม่นานครับ ที่ผมเคยใช้งานตั้งแต่ขั้นตอนสมัคร ยื่นเอกสาร ตรวจเอกสาร จนถึงอนุมัติการใช้งาน จะใช้เวลาประมาณไม่เกิน 2 สัปดาห์ครับ ความช้าเร็วก็ขึ้นอยู่กับประเภทธุรกิจและการส่งเอกสารถูกต้องหรือไม่
แต่หากดำเนินการเปิดบัญชีเป็นธุรกิจ (นิติบุคคล) อาจต้องมีขั้นตอนดำเนินการที่ซับซ้อนสักเล็กน้อย แต่ถือว่าอนุมัติว่า payment gateway เจ้าอื่นๆ ครับ
เป็นยังไงบ้างการทำ Woocommerce ตัดบัตรเครดิต ด้วย Omise payment gateway ทำเองได้ไม่ยากใช่มั้ยครับ หากเราติดขัดตรงไหน เราอาจจะส่งข้อความไปสอบถามกับทาง Omise ได้โดยตรงก็ได้เลยครับ เขามีทีมงานคนไทยคอยบริการเราอยู่แล้วด้วยครับ
======
ติดตามอ่านสาระน่ารู้ การทำเว็บไซต์สำหรับมือใหม่ ด้วย WordPress พร้อมกับให้ความรู้เรื่องการตลาดออนไลน์ และการปรับแต่ง SEO ให้ติดอันดับ google ได้ที่ padveewebschool.com
ประชาสัมพันธ์
สำหรับท่านใดที่อ่านบทความนี้แล้ว สนใจการสร้างเว็บร้านค้าออนไลน์ด้วย WordPress + Woocommerce แบบมืออาชีพ ในวันที่ 21 - 22 สิงหาคม 2564 นี้ ผมได้เปิดคอร์สสอน Woocommerce Expert แบบกลุ่มเล็กๆ 1 รอบ สอนสดรอบละ 6 คน เพื่อให้ผู้เรียนได้ประโยชน์สูงสุด เรียนรู้และทำตามไปพร้อมๆ กันได้
รายละเอียดคอร์สเรียน
สร้างเว็บร้านค้าออนไลน์ Woocommerce expert
- ค่าเรียน 9,500 บาท 21 - 22 สิงหาคม 2564
- เวลาเรียน 10.00- 16.00 น.
- เรียนกลุ่มเล็กรอบละ 6 คนเท่านั้น (ว่าง)
- เราสอนด้วยธีม Flatsome Theme
(No.1 Best selling Woocommerce Theme 2020) - สถานที่เรียน Seatz Station
- ปากซอยงามวงศ์วาน 44 ก่อนถึง รพ.วิภาวดี ฝั่งตรงข้าม ม.เกษตรประตูงามวงศ์วาน 3
- จองที่นั่งเรียนผ่าน Lind ID : padveewebschool ได้เลยครับ
ทุกคอร์สเรียนรอบสอนสด
ได้คอร์สเรียนออนไลน์แถมฟรีครับ
คอร์สเรียนนี้เหมาะกับใคร ?
- เนื่องจากคอร์สเรียนนี้เราสอนเป็นกลุ่ม จึงไม่เหมาะกับทุกคน
- คอร์สนี้เหมาะสำหรับผู้ที่เคยใช้งาน WordPress มาบ้าง รู้พื้นฐานแบบงูๆปลาๆ หากคุณเคยลง WordPress เอง ลงปลั๊กอินได้ เคยสร้าง page หรือ post แบบนี้เรียนได้
- หรือหากคุณไม่เคยใช้งาน WordPress มาก่อนเลย แต่คุณมีทักษะไอที เช่น เคยใช้พวกโปรแกรมกราฟฟิค Photoshop, illustrator เคยใช้พวกโปรแกรมตัดต่อวีดีโอ อะไรก็ได้มาบ้าง
- ถ้าคุณเคยใช้โปรแกรมดังกล่าวข้างต้น แสดงว่าคุณมีทักษะไอที สามารถลงเรียนคอร์สนี้ได้
- เนื่องจากเราเรียนกันหลายคน หากผู้เรียนไม่มีทักษะไอทีเลยจะทำให้เรียนรู้ตามเพื่อนไม่ทันนั้นเอง
คอร์สเรียนนี้ไม่เหมาะกับใครบ้าง ?
- ผู้ที่ไม่มีทักษะด้านไอทีต่างๆ
- ผู้สูงวัยที่ใช้คอมพิวเตอร์ยังไม่คล่อง หรือหากรู้สึกว่าตัวเองเรียนรู้ได้ช้า คุณไม่เหมาะกับคอร์สเรียนนี้
- สำหรับคนที่ไม่มีทักษะด้านไอที หรือคิดว่าตนเองเรียนรู้ได้ช้า และชอบความเป็นส่วนตัว แต่ต้องการที่จะสร้างเว็บด้วยตนเอง
- ผมแนะนำให้ลงเรียนรอบสอนแบบตัวต่อตัวจะดีที่สุดครับ
แผนที่สถานที่เรียน (รอบสอนกลุ่ม)
สถานที่เรียน Seatz Station
ปากซอยงามวงศ์วาน 44 ก่อนถึง รพ.วิภาวดี
ฝั่งตรงข้าม ม.เกษตรประตูงามวงศ์วาน 3